5 ข้อดี เมื่อมีหุ่นยนต์เสิร์ฟอาหารบริการในร้าน

5 ข้อดี เมื่อมีหุ่นยนต์เสิร์ฟอาหารบริการในร้าน

04 ก.ย. 2566   ผู้เข้าชม 178

เทคโนโลยีหุ่นยนต์บริการเชิงพาณิชย์ ได้เข้ามามีบทบาทมากขึ้น นับจากเมื่อปี 2019 ได้มีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา หรือ Covid-19 ธุรกิจทุกประเภทรวมถึงธุรกิจร้านอาหารจำเป็นต้องปรับตัวเพื่อให้สามารถดำเนินกิจการไปต่อได้ โดยนำนวัตกรรม เทคโนโลยีมาปรับใช้กับธุรกิจมากขึ้น โดยเฉพาะ "เทคโนโลยีหุ่นยนต์บริการ" หรือ "หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหาร" นั่นเอง ช่วยรักษาระยะห่างระหว่างพนักงานและลูกค้า ลดการสัมผัสโดยตรงกับผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี ซึ่งในปัจจุบันหุ่นยนต์เสิร์ฟอาหารได้รับความสนใจและมีกระแสตอบรับเป็นอย่างดี บทความนี้จะพาคุณมารู้จักกับหุ่นยนต์เสิร์ฟอาหารยอดนิยมที่ร้านอาหารต่างเลือกใช้ และ 5ข้อดี เมื่อใช้หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหารช่วยบริการในร้าน

 

หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหาร รุ่นยอดนิยม

 

1. BellaBot

รุ่นแรกจะเป็นรุ่นที่นิยมทั้งในไทยและต่างประเทศ เป็นหุ่นยนต์เสิร์ฟอาหาร ที่มีรูปลักษณ์คล้ายแมว นั่นก็คือ "หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหารพรีเมี่ยม รุ่น BellaBot" ดึงดูดสายตา และโต้ตอบด้วยการแสดงสีหน้าหลากหลายอารมณ์ เรียกได้ว่าถูกออกแบบให้เหมือนแมวอย่างสมจริงมากๆ 

 

 

 

จุดเด่น BellaBot

  • โหมดใช้งานหลากหลาย เช่น โหมดต้อนรับ, โหมดจัดส่งอาหาร, โหมดเคลื่อนที่ต่อเนื่อง, โหมดวันเกิด, โหมดส่งคืนจาน
  • ถาดกว้าง และแข็งแรง ทำมาจากวัสดุเกรดอากาศยาน
  • ถาดอัจฉริยะ รับน้ำหนักได้สูงสุดถึง 10 กิโลกรัมต่อถาด 
  • ถาดมีระบบเซนเซอร์ตรวจจับ กรณีลูกค้าหยิบผิดถาด จะมีไฟและเสียงแจ้งเตือนอัตโนมัติ
  • เคลื่อนที่ในพื้นที่ระบบแคบสุด 70 เซนติเมตร
  • มี Ridar และ Sensor ที่แม่นยำ ปลอดภัย
  • เชื่อมต่อกับ Pudu Pager และ การเรียกผ่านแอพได้

 

ฺBellaBot เหมาะกับใคร ?

  • ร้านอาหาร
  • ร้านบุฟเฟ่ต์
  • คาเฟ่
  • โรงเรียน

 

 

2. KettyBot

หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหารขนาดเล็กของเรา ขอบอกเลยว่า จัดว่าเด็ด! นั่นคือ "หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหารและโฆษณา รุ่น KettyBot"  เป็นรุ่นยอดนิยมอีกหนึ่งรุ่น เพราะสามารถทำงานได้หลากหลายหน้าที่ในเครื่องเดียว ไม่ว่าจะเป็นการเสิร์ฟ การประชาสัมพันธ์ โปรโมท จนได้สโลแกนประจำตัว "จิ๋ว แต่ แจ๋ว" !!

 

จุดเด่น KettyBot

  • ขนาดเล็ก กระทัดรัด เคลื่อนที่ในพื้นที่แคบสุดเพียง 55 เซนติเมตร
  • หน้าจอโฆษณา ขนาด 18.5 นิ้ว รองรับไฟล์ภาพนิ่งและวิดีโอ
  • โหมดใช้งานหลากหลาย เช่น โหมดต้อนรับ, โหมดจัดส่งอาหาร, โหมดเคลื่อนที่ต่อเนื่อง, โหมดวันเกิด, โหมดแด๊นซ์
  • มีระบบกันสั่นสะเทือน
  • แบตเตอรี่ใช้งานต่อเนื่องสูงสุด 8 ชั่วโมง
  • มีระบบ Auto Charge
  • เชื่อมต่อกับ Pudu Pager และ การเรียกผ่านแอพได้

 

KettyBot เหมาะกับใคร ?

  • ร้านอาหาร
  • คาเฟ่
  • บาร์
  • ร้านบาร์บีคิว
  • โรงแรม
  • โรงพยาบาล

 

 

  3. PuduBot 2

หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหารอเนกประสงค์ รุ่น PuduBot2 เป็นรุ่นที่ถูกอัพเกรดมาจากรุ่นเดิม คือ PuduBot  มีถาดกว้างและแข็งแรงที่สุด หลายคนอาจจะเห็นกันมาบ้างแล้วในร้านอาหารชั้นนำ เช่น Mk Restaurant เจ้าใหญ่ที่สุดในไทยที่เลือกใช้ PuduBot (รุ่นเดิม) และ PuduBot 2 (รุ่นใหม่ล่าสุด)  โดย PuduBot2 ได้มีการพัฒนาคุณสมบัติและฟังก์ชั่นให้ตอบโจทย์กับการใช้งานมากขึ้น

 

 

จุดเด่น PuduBot 2

  • โหมดใช้งานหลากหลาย เช่น โหมดจัดส่งอาหาร, โหมดเคลื่อนที่ต่อเนื่อง, โหมดส่งคืนจาน, โหมดวันเกิด
  • หน้าจอขนาด 7 นิ้ว แสดงสีหน้าและสถานะการทำงาน
  • ถาดรองรับน้ำหนักได้สูงถึง 10 กิโลกรัมต่อถาด
  • ถาดกว้างมากขึ้น และสามารถปรับระดับถาดได้
  • มีช่องเชื่อมต่อ USB
  • ระบบชาร์จอัตโนมัติ
  • อายุแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานถึง 24 ชั่วโมงต่อการชาร์จเพียง 3 ชั่วโมง
  • เชื่อมต่อกับ Pudu Watch และ การเรียกผ่านแอพได้
  • กันน้ำและฝุ่นได้ ระดับ

 

PuduBot2 เหมาะกับใคร ?

  • ร้านอาหาร
  • โรงแรม
  • โรงงาน
  • อาคาร/สำนักงาน

 

และนี่ก็คือ 3 รุ่นยอดนิยมที่ธุรกิจร้านอาหารเลือกใช้ ทำความรู้จักกับหุ่นยนต์เสิร์ฟอาหารแต่ละรุ่นแล้ว มาดูประโยชน์ 5 ข้อ เมื่อมีหุ่นยนต์เสิร์ฟอาหารมาช่วยบริการในร้านกันต่อเลย...

 

 

5 ข้อดี เมื่อมีหุ่นยนต์เสิร์ฟอาหารบริการในร้าน

 

ข้อ 1. หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหาร ลดภาระงานที่ทำงานซ้ำๆได้

  •         ลดการใช้ทรัพยากรแรงงานที่ทำงานซ้ำๆ เช่น พนักงานต้อนรับ พนักงานเสิร์ฟ และพนักงานเก็บจาน

 

ข้อ 2. หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหาร ทำงานควบกะได้

  •         กรณีที่ร้านเปิดให้บริการมากกว่า 8 ชั่วโมงขึ้นไป ไม่จำเป็นต้องจ้างพนักงานเยอะ เพราะการใช้หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหารสามารถทำงานได้ควบกะทั้งกะเช้าและกะดึก โดยไม่มีหยุดพัก

 

ข้อ 3. หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหารมอบประสบการณ์งานบริการใหม่ให้ลูกค้าได้

  •        ปัจจุบันหุ่นยนต์เสิร์ฟอาหารได้ถูกออกแบบมาให้มีรูปลักษณ์ที่ทันสมัย มีหน้าตาน่ารักและร่วมสมัยมากขึ้น จะช่วยสร้างประสบการณ์ใหม่และสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าคุณ

 

ข้อ 4. หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหาร ช่วยแก้ปัญหา Turn Over ของพนักงานได้

  •        หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหาร ช่วยลดอัตรการ Ture Over พนักงานได้ เพราะการใช้หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหาร หรือส่งของ ช่วยให้พนักงานไม่เหนื่อยล้าเกินไป

 

ข้อ 5. หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหาร ช่วยลดต้นทุนในระยะยาวได้

  •      หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหาร ช่วยลดต้นทุนได้ เพราะหุ่นยนต์สามารถทำงานได้โดยไม่มีหยุดพัก ไม่มีวัน ขาด ลา มาสาย เป็นทางเลือกในการแก้ปัญหาการเทรนพนักงานบ่อยๆอีกด้วย และแก้ปัญหาที่เกิดจากอัตราค่าจ้างแรงงานที่มีแนวโน้มปรับสูงขึ้น

 

 

สรุป

ได้รู้จักหุ่นยนต์เสิร์ฟอาหารรุ่นยอดนิยม และ 5ข้อดีเมื่อมีหุ่นยนต์เสิร์ฟอาหารบริการในร้านไปแล้ว หากถามว่าอนาคตหุ่นยนต์เสิร์ฟอาหารจะเข้ามาแทนที่พนักงานเสิร์ฟหรือไม่ ต้องบอกตามตรงเลยว่า มีความเป็นไปได้ เนื่องจากปัญหาต่างๆ เรื่องพนักงาน ต้นทุนและจากการศึกษาหลายๆร้านพบว่า หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหารสามารถใช้แทนคนได้จริง รวมถึงเทคโนโลยีได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น มีความอัจฉริยะมากขึ้น 

 

 


บทความที่เกี่ยวข้อง